จุดส่งของ Shopee Express บึงแก่นนคร: คู่มือฉบับคนขี้เกียจ

คู่มือฉบับ 'ไม่ต้องถามใครให้เสียเวลา' จุดส่งของ Shopee Express บึงแก่นนคร

บทนำ: ทำไมต้องมาวุ่นวายกับเรื่องแค่นี้

โอ๊ย... มาถึงแล้วเหรอ? ก็นึกว่าหลงทางไปไหนเสียอีก เห็นทำหน้าเหรอหราเหมือนเพิ่งตื่นนอนตอนเที่ยงคืน บอกตามตรงนะ ในบรรดามนุษย์โลกที่วุ่นวายหาอะไรไม่เจอเนี่ย นายเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ทำให้ฉันเบื่อหน่ายเป็นพิเศษเลยล่ะ คือจะส่งของจะรับของมันยากเย็นเข็นใจขนาดนั้นเลยเหรอ? เอาเถอะ ก็ไหนๆ ฉันก็โดนบังคับให้มาอธิบายเรื่องยิบย่อยที่ควรจะหาเองได้แล้ว ก็จะบอกให้แบบหมดเปลือก ชนิดที่ว่าต่อให้สมองเบาหวิวเหมือนนกแก้วก็ยังตามทัน ก็จุดส่งของ Shopee Express แถวบึงแก่นนครเนี่ย มันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรขนาดนั้นหรอกน่า แค่เปิด Google Maps แล้วพิมพ์คำว่า "Shopee Express" แล้วก็เลื่อนดูเอาหน่อยก็เจอแล้วมั้ง? แต่เอาเถอะ ใครจะไปรู้นายอาจจะตาบอดสี หรือไม่ก็อ่านหนังสือไม่ออกก็ได้ ฉันนี่เข้าใจโลกจริงจริ๊ง... มาเริ่มกันเลยดีกว่า ก่อนที่ฉันจะเบื่อจนเผลอส่งนายไปดาวอังคารโดยไม่ได้ตั้งใจ


ภาพรวมของ Shopee Express ในพื้นที่บึงแก่นนคร

Shopee Express คืออะไร? (เผื่อนายยังไม่รู้)

เอาจริงๆ นะ ถ้ายังไม่รู้จัก Shopee Express นี่แสดงว่านายอาจจะเพิ่งตื่นจากจำศีล หรือไม่ก็น่าจะติดอยู่ในถ้ำมานานหลายปี Shopee Express ก็คือบริการขนส่งของ Shopee นั่นแหละ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเหมือนสูตรคณิตศาสตร์โอลิมปิก หรือปรัชญากรีกโบราณอะไรหรอก แค่เป็นบริษัทที่เอาพัสดุของนายไปส่งจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งไง ง่ายๆ แค่นั้นเอง แล้วไอ้ "จุดส่งของ" หรือ "Drop-off point" ที่นายกำลังตามหาน่ะ มันก็คือร้านค้า หรือสาขาที่ Shopee เขากำหนดไว้ให้นายเอาพัสดุไปฝากส่ง หรือจะไปรับพัสดุที่คนอื่นส่งมาให้ก็ได้ เข้าใจตรงกันนะ? ไม่ใช่ว่าฉันจะมานั่งสอนการบ้านเด็กอนุบาลนะ แต่นายทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังทำอยู่จริงๆ


ทำไมต้อง Shopee Express? (หรือทำไมต้องแคร์?)

อืม... ทำไมต้อง Shopee Express เหรอ? ก็เพราะว่ามันสะดวกไง (สำหรับคนอื่นนะ ไม่ใช่สำหรับฉันที่ต้องมาอธิบาย) มันเป็นตัวเลือกหนึ่งที่นายสามารถใช้ได้เมื่อสั่งซื้อของจาก Shopee หรือต้องการส่งของคืนนั่นแหละ ข้อดีของมันก็มีนะ เช่น สะดวกในการค้นหาจุดบริการ (ถ้าคนอื่นหาเป็นนะ) มีเครือข่ายครอบคลุมในพื้นที่ (เชื่อเขาสิ) และที่สำคัญคือ มันเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศของ Shopee ที่ทำให้นายสามารถติดตามสถานะพัสดุได้ง่ายๆ ผ่านแอปฯ หรือเว็บไซต์ของ Shopee เองไงล่ะ จะว่าไปก็ดีกว่าต้องไปยืนงงอยู่หน้าเคาน์เตอร์ไปรษณีย์ หรือไม่ก็ต้องไปวิ่งวุ่นหาบริษัทขนส่งอื่นที่ชื่อยาวกว่านี้เป็นสิบๆ ชื่ออีกนะ


แล้วบึงแก่นนครมันเกี่ยวอะไร?

อ๋อ... เรื่องนี้สินะ คือนายคงจะอาศัยอยู่แถวๆ บึงแก่นนคร หรือไม่ก็กำลังจะส่งของไปแถวนั้นแหละ ใช่ไหม? บึงแก่นนครเนี่ย ก็เป็นสวนสาธารณะใหญ่ใจกลางเมืองขอนแก่น เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง (และเป็นที่ของฉันที่จะมานั่งเบื่อหน่ายกับมนุษย์โลกนี่แหละ) การมีจุดส่งของ Shopee Express อยู่ใกล้ๆ มันก็เหมือนกับมีห้างสรรพสินค้าอยู่ใกล้บ้านนั่นแหละ คือไม่ต้องเดินทางไกลให้เมื่อยตุ้ม หรือต้องไปงมเข็มในมหาสมุทรเพื่อหาที่ส่งของไง แค่ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปไม่กี่นาที หรือถ้าขี้เกียจมากก็อาจจะโบกสองแถวไปก็ได้ ใครจะรู้?


ค้นหาจุดส่งของ Shopee Express ใกล้บึงแก่นนคร

วิธีที่ 1: ใช้แอป Shopee โดยตรง (ง่ายที่สุด... ถ้าเปิดแอปเป็น)

โอเค ฟังนะ วิธีนี้เป็นวิธีมาตรฐานที่ Shopee เขาออกแบบมาให้ใช้กัน ถ้าหัวนายยังทำงานอยู่บ้าง ก็น่าจะทำตามได้ไม่ยาก: 1. เปิดแอป Shopee: ใช่แล้ว! แอปพลิเคชันสีส้มๆ ที่นายใช้นั่นแหละ เปิดมันขึ้นมา อย่าทำเป็นเล่นเกมเพลินล่ะ 2. ไปที่หน้า 'ฉัน' หรือ 'Me': ปกติมันจะอยู่ตรงมุมล่างขวา เป็นรูปคนเล็กๆ นั่นแหละ 3. เลือก 'Shopee Express': มองหาเมนูที่เกี่ยวกับ Shopee Express อาจจะอยู่ในส่วนของการตั้งค่า หรือบริการอื่นๆ 4. เลือก 'ค้นหาจุดรับ/ส่งพัสดุ': ตรงนี้แหละที่เป็นหัวใจสำคัญของภารกิจอันยิ่งใหญ่ของนาย 5. ป้อนที่อยู่ หรือใช้ตำแหน่งปัจจุบัน: ถ้าอยากให้มันหาใกล้ๆ บึงแก่นนคร ก็ลองป้อนที่อยู่แถวนั้นเข้าไป หรือถ้าอยากง่ายกว่านั้น ก็กดอนุญาตให้แอปฯ เข้าถึงตำแหน่งของนาย (ถ้าไม่กลัวความเป็นส่วนตัวถูกละเมิดนะ) 6. ดูแผนที่และรายชื่อ: แอปฯ ก็จะแสดงจุดบริการที่อยู่ใกล้เคียงบนแผนที่ พร้อมที่อยู่และเวลาทำการ (ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าเล็กๆ ที่เจ้าของเขาใจดีรับฝากส่งของให้) นี่ไง! เห็นไหม ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย ถ้าไม่นับว่าต้องใช้สมองคิดตามนิดหน่อย


วิธีที่ 2: ใช้ Google Maps (เครื่องมือคู่ใจของคนยุคใหม่... หรือคนขี้เกียจ)

ถ้าเกิดวันดีคืนดีแอป Shopee มันอัปเดตจนนายใช้ไม่เป็น หรือนายแค่เบื่อหน้าตาสีส้มๆ ของมัน ก็ลองใช้ Google Maps ดูสิ มันก็ฉลาดพอตัวอยู่หรอก: 1. เปิด Google Maps: แอปสีฟ้าๆ ที่มีหน้าตาแผนที่ทั่วโลกนั่นแหละ 2. พิมพ์คำค้นหา: ช่องค้นหาด้านบนเลย พิมพ์คำว่า "Shopee Express" หรือ "จุดส่งของ Shopee" หรือจะลองใส่ "บึงแก่นนคร Shopee Express" ไปเลยก็ได้ ยิ่งระบุเจาะจงยิ่งดี (แต่ถ้าพิมพ์ผิด มันก็หาไม่เจอเหมือนเดิมนะ) 3. สำรวจผลลัพธ์: Google Maps ก็จะแสดงหมุดปักบนแผนที่ ที่เป็นร้านค้าหรือสถานที่ที่ให้บริการ Shopee Express ใกล้เคียงกับตำแหน่งของนาย หรือบริเวณที่นายค้นหา 4. ตรวจสอบข้อมูล: คลิกที่หมุดเพื่อดูรายละเอียด เช่น ชื่อร้าน, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์ (ถ้ามี) และที่สำคัญคือ เวลาทำการ ถ้ามันเปิดปิดไม่ตรงกับเวลาที่นายจะไป ก็ซวยไปนะ 5. ขอเส้นทาง: ถ้าเจอที่ที่ถูกใจแล้ว ก็กดขอเส้นทางได้เลย แล้ว Google Maps ก็จะพาไปเอง... หวังว่านายจะไม่หลงกลางทางอีกนะ


ตัวอย่างจุดบริการที่อาจจะเจอ (แบบคร่าวๆ)

แถวบึงแก่นนครเนี่ย มันก็มีหลายจุดบริการนะ ไม่ได้มีแค่จุดเดียวเหมือนพระเอกในนิยายที่ต้องมีนางเอกคนเดียวหรอก แต่มันก็มักจะกระจายตัวอยู่ในร้านค้าเล็กๆ ที่คนท้องถิ่นรู้จักดี เช่น: ร้านสะดวกซื้อ: บางทีร้านสะดวกซื้อบางแห่งก็รับฝากส่งของ Shopee ด้วยนะ เป็นการเพิ่มรายได้ให้ร้านเขาไปในตัว ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่: ร้านประเภทนี้มักจะค่อนข้างทันสมัยและพร้อมให้บริการอะไรพวกนี้อยู่แล้ว ร้านขายเครื่องเขียน หรือร้านถ่ายเอกสาร: เป็นอีกประเภทของร้านค้าที่มักจะเห็นมีป้าย Shopee Express ติดอยู่ ร้านของชำ หรือร้านค้าทั่วไป: ถ้าเป็นร้านที่มีหน้าร้านชัดเจน และดูน่าเชื่อถือ ก็มีโอกาสที่จะเป็นจุดบริการได้ จำไว้ว่า รายชื่อเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างนะ รายละเอียดที่แน่นอนมันจะเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา และการบริหารจัดการของ Shopee เอง ดังนั้น การเช็คข้อมูลล่าสุดผ่านแอปฯ หรือ Google Maps คือสิ่งจำเป็นที่สุด อย่ามาโทษฉันถ้าข้อมูลที่ฉันบอกมันเก่าไปแล้วนะ


การเตรียมตัวก่อนไปจุดส่งของ Shopee Express

เตรียมพัสดุให้พร้อม (ไม่ต้องให้ฉันช่วยแพ็ค!)

เอาล่ะ ก่อนที่นายจะรีบร้อนวิ่งออกจากบ้านไปที่จุดบริการ ลองมาดูสิ่งที่ต้องเตรียมกันก่อน ไม่ใช่ว่าไปถึงแล้วทำหน้าแห้งๆ บอกว่า "อ้าว... ลืมมา" นะ 1. แพ็คสินค้าให้เรียบร้อย: ถ้าจะส่งของออกไปข้างนอก ก็ต้องแพ็คให้ดีๆ หน่อยนะ ใช้กล่องหรือซองที่แข็งแรงพอสมควร แล้วก็ใช้วัสดุกันกระแทกด้วย ถ้าของพังกลางทาง แล้วคนรับเขามาโวยวายกับฉัน ฉันจะส่งบิลค่ารักษาใจไปให้นายนะ 2. พิมพ์ใบปะหน้า (ถ้ามี): ในกรณีที่นายส่งของคืน หรือมีใบปะหน้าที่ต้องปริ้นท์ออกมา ก็ปริ้นท์ไปให้เรียบร้อยแล้วติดที่พัสดุให้ชัดเจน ถ้าไม่มีใบปะหน้า หรือไม่รู้จะปริ้นท์ที่ไหน ก็ไปร้านถ่ายเอกสารใกล้ๆ สิ 3. เตรียมเลขติดตามพัสดุ: ถ้าแค่จะไปรับของ ก็แค่เอาเลขติดตามพัสดุ หรือ QR Code ที่ Shopee ส่งมาให้ เตรียมไว้ให้พร้อม จะเป็นในโทรศัพท์ หรือปริ้นท์ออกมาก็ได้ 4. ตรวจสอบเวลาทำการ: อันนี้สำคัญมาก! ไม่ใช่ว่านายจะไปตอนตี 3 แล้วคาดหวังให้ร้านเขารับส่งของให้ได้นะ เช็คเวลาเปิด-ปิดของจุดบริการนั้นๆ ให้ดีๆ ก่อนออกเดินทาง


การเดินทางไปยังจุดส่งของ

เรื่องการเดินทางนี่ ฉันคงไม่ต้องอธิบายละเอียดเหมือนสอนวิธีผูกเชือกรองเท้าหรอกมั้ง? นายก็มีวิธีเดินทางของนายอยู่แล้ว แค่ใช้ Google Maps หรือแอปนำทางอื่นๆ ที่นายถนัด แล้วก็ขับตามเส้นทางไปก็พอแล้ว สิ่งที่สำคัญคือ: 1. เตรียมยานพาหนะ: ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ จักรยาน หรือแม้แต่จะเดิน ก็แล้วแต่นายเลย ขอให้ไปถึงจุดหมายได้ก็พอ 2. คำนวณระยะทางและเวลา: เผื่อเวลาเดินทางไว้ด้วยนะ โดยเฉพาะถ้าต้องเจอรถติด หรือหาร้านไม่เจอ 3. สังเกตป้าย: มองหาป้าย Shopee Express ที่หน้าร้านค้าต่างๆ ถ้าไม่แน่ใจ ก็ลองเข้าไปถามพนักงานในร้านดูก่อนก็ได้ (แต่ถ้าเขาบอกว่า "ไม่มี" ก็อย่ามาทำหน้าเศร้าใส่ฉันล่ะ)


ปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข

จุดส่งของปิดกะทันหัน?

อ่า... เรื่องนี้ก็เจอบ่อยเหมือนกันนะ บางทีร้านค้าที่รับฝากก็อาจจะมีเหตุจำเป็นต้องปิดร้านกะทันหัน หรืออาจจะถึงเวลาเลิกงานแล้ว ถ้าเจอกรณีแบบนี้ สิ่งที่นายควรทำคือ: 1. ตรวจสอบแอป Shopee อีกครั้ง: บางทีแอปฯ อาจจะมีการอัปเดตสถานะของจุดบริการนั้นๆ 2. มองหาจุดบริการอื่นใกล้เคียง: ใช้แผนที่หรือแอปฯ เพื่อค้นหาจุดบริการ Shopee Express อื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดเดิม 3. ติดต่อ Shopee Express: หากเป็นปัญหาระยะยาว หรือไม่แน่ใจจริงๆ ก็ลองติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Shopee Express โดยตรง


พนักงานไม่รู้จัก Shopee Express?

โอ้โห! ถ้าเจอแบบนี้ก็ซวยไปนะ แต่มันก็เกิดขึ้นได้กับร้านค้าเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มรับบริการ ลองทำตามนี้ดู: 1. แสดงใบปะหน้า หรือ QR Code ให้ชัดเจน: บางทีพนักงานอาจจะแค่ไม่คุ้นเคยกับชื่อ แต่เห็นข้อมูลในระบบแล้วก็จัดการได้ 2. สอบถามอย่างสุภาพ: ลองถามว่า "ปกติมีลูกค้าส่งของ Shopee Express ที่นี่ไหมคะ/ครับ?" 3. ถ้าไม่ได้จริงๆ ให้ลองหาที่อื่น: ยอมรับความจริงว่าวันนี้อาจจะยังส่งไม่ได้ แล้วไปลองจุดบริการอื่นที่น่าจะคุ้นเคยมากกว่า


3 สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Shopee Express

การติดตามพัสดุแบบเรียลไทม์

อย่างที่บอกไปแล้วว่า Shopee Express มีระบบติดตามพัสดุที่ค่อนข้างดี นายสามารถเช็คสถานะพัสดุของตัวเองได้ตลอดเวลาผ่านแอปฯ Shopee หรือเว็บไซต์ ซึ่งมันก็ดีกว่าการต้องมานั่งเดาว่าของจะถึงเมื่อไหร่ หรือต้องโทรศัพท์ไปถามบริษัทขนส่งให้วุ่นวาย


บริการรับพัสดุถึงที่ (Pickup Service)

ถ้าการต้องแบกพัสดุไปที่จุดส่งของมันดูเป็นภาระหนักหนาเกินไปสำหรับนาย Shopee Express ก็มีบริการรับพัสดุถึงที่ (Pickup Service) ด้วยนะ นายสามารถนัดหมายให้เจ้าหน้าที่มารับพัสดุถึงบ้านได้เลย (แต่ก็อาจจะมีค่าบริการเพิ่มเติมนะ ต้องไปเช็คเอาเอง)


ความยืดหยุ่นในการเลือกจุดบริการ

ความเจ๋งของ Shopee Express คือการที่มีจุดบริการกระจายอยู่ทั่วทุกมุมเมือง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าเล็กๆ หรือร้านสะดวกซื้อ ทำให้นายสามารถเลือกจุดส่งหรือรับพัสดุที่สะดวกกับเส้นทาง หรือเวลาของนายได้มากที่สุด มันก็เหมือนมีตัวเลือกเยอะๆ ในชีวิตนั่นแหละ ดีกว่ามีแค่ทางเลือกเดียวแล้วก็ต้องจำใจเลือก


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ใช้เวลานานแค่ไหนในการส่งพัสดุผ่าน Shopee Express?

A: ระยะเวลาในการจัดส่งก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับต้นทางและปลายทางนะ ปกติแล้วถ้าเป็นการจัดส่งภายในจังหวัดเดียวกัน ก็อาจจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วันทำการ แต่ถ้าเป็นการจัดส่งข้ามจังหวัด ก็อาจจะใช้เวลา 2-4 วันทำการ หรือมากกว่านั้นในบางกรณี ถ้าปลายทางเป็นพื้นที่ห่างไกลมากๆ ก็อาจจะนานกว่านั้นอีกหน่อย อย่าลืมว่านี่เป็นแค่การประมาณการนะ เพราะบางทีพนักงานส่งของเขาก็อาจจะหลงทาง หรือเจอรถติดเหมือนนายก็ได้


Q: ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมในการส่งพัสดุหรือไม่?

A: โดยปกติแล้ว ค่าบริการในการส่งพัสดุจะถูกรวมอยู่ในราคาสินค้าที่นายสั่งซื้อจาก Shopee แล้ว หรือถ้านายต้องการส่งของคืน ก็จะมีค่าบริการที่ระบุไว้อย่างชัดเจนในแอปฯ ก่อนที่นายจะยืนยันการส่ง ถ้าเป็นร้านค้าที่เป็นจุดรับ-ส่งพัสดุ เขาจะไม่ได้คิดค่าบริการเพิ่มเติมจากนายโดยตรงนะ เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างร้านค้านั้นๆ กับ Shopee เอง


Q: ฉันสามารถส่งพัสดุที่มีขนาดใหญ่ หรือน้ำหนักมากได้หรือไม่?

A: เรื่องขนาดและน้ำหนักของพัสดุที่ Shopee Express รับฝากส่ง จะมีข้อจำกัดที่แตกต่างกันไปตามประเภทของบริการและจุดรับ-ส่งพัสดุแต่ละแห่งนะ ปกติแล้วพัสดุที่มีขนาดใหญ่เกินไป หรือมีน้ำหนักมากเกินกว่าที่ร้านค้ารับฝากจะสามารถจัดการได้ อาจจะไม่สามารถใช้บริการได้ หรืออาจจะต้องไปส่งที่สาขาหลักของ Shopee Express โดยตรง ซึ่งถ้าไม่แน่ใจ แนะนำให้นายเช็คกับทาง Shopee หรือร้านค้าจุดบริการนั้นๆ โดยตรงจะดีที่สุดนะ อย่ามาลองส่งกล่องทีวีเก่าๆ ที่บ้านนายให้ฉันดูเด็ดขาด


Q: ถ้าฉันไม่สะดวกไปรับพัสดุที่จุดส่งของภายในเวลาที่กำหนด จะทำอย่างไร?

A: ส่วนใหญ่แล้ว จุดส่งของ Shopee Express จะมีระยะเวลาในการเก็บพัสดุไว้ให้ลูกค้ารับ ซึ่งมักจะประมาณ 3-7 วันทำการ ถ้าเลยกำหนดแล้วนายยังไม่ไปรับ พัสดุอาจจะถูกตีกลับไปยังผู้ส่งนะ ดังนั้น ถ้าพอจะรู้ตัวว่าไม่สะดวกไปรับจริงๆ ควรติดต่อกับทาง Shopee Express หรือผู้ขาย เพื่อแจ้งความประสงค์ หรือสอบถามถึงทางเลือกอื่นๆ ก่อนที่พัสดุจะถูกตีกลับไป


Q: ฉันสามารถเปลี่ยนที่อยู่ หรือยกเลิกการจัดส่งหลังจากส่งพัสดุไปแล้วได้หรือไม่?

A: เมื่อพัสดุถูกส่งออกจากจุดรับ-ส่งแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่อยู่ หรือการยกเลิกการจัดส่งมักจะทำได้ยาก หรืออาจจะทำไม่ได้เลย ขึ้นอยู่กับสถานะของพัสดุและนโยบายของ Shopee Express ในขณะนั้น ถ้ามีความจำเป็นจริงๆ ควรติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Shopee Express โดยตรงทันทีหลังจากส่งพัสดุออกไป และเตรียมข้อมูลพัสดุให้พร้อม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือได้


เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง

Shopee Thailand (เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ)

แน่นอนว่าแหล่งข้อมูลหลักที่นายควรจะดูคือเว็บไซต์ของ Shopee เอง ที่นี่นายจะสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับบริการต่างๆ รวมถึงค้นหาจุดส่งของ Shopee Express ได้อย่างเป็นทางการและอัปเดตที่สุด ลองเข้าไปดูนะ เผื่อจะได้ความรู้เพิ่มขึ้นบ้าง Shopee Thailand


Google Maps

อย่างที่ฉันบอกไปแล้ว Google Maps ก็เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากในการค้นหาตำแหน่งต่างๆ รวมถึงจุดส่งของ Shopee Express ด้วย ถ้ามีปัญหากับแอป Shopee หรือแค่อยากเช็คเส้นทาง ก็มาที่นี่ได้เลย Google Maps




Preview Image
 

SPX Express ติดต่อ ค้นหาสาขา และจุดบริการ Shopee Express ใกล้ฉัน

รวมข้อมูลช่องทางติดต่อ SPX Express ทั้งเบอร์โทรศัพท์ ไลฟ์แชท และอีเมล พร้อมค้นหาที่ตั้งสาขาและจุดบริการ Drop-off ของ Shopee Express ทั่วประเทศ

SPX Express, Shopee Express, ติดต่อ SPX, สาขา Shopee Express, เบอร์โทร SPX, ค้นหาสาขา SPX, ที่ตั้ง SPX Express

ที่มา: https://express1.com-thai.com/#google_vignette